นับเป็นช่วงบ่ายในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่ยากจะลืมเลือน กองเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสฉลองแชมป์ พร้อมกล่าวคำอำลากับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ พอล สโคลส์ หลังเปิดบ้านเอาชนะสวอนซี ซิตี้ ไปได้ 2 – 1
ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เฮอร์นานเดซ ยิงประตูเบิกร่องให้กับทีมเจ้าบ้านก่อนหมดเวลาในครึ่งแรกไม่นาน รูปเกมเป็นทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่า ก่อนที่ มิชู จะมาตีเสมอให้กับทีมเยือน หลังจากที่กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้ไม่กี่นาที
สวอนซี ซิตี้ เล่นกันได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน พวกเขาเกือบจะยิงประตูคว้าชัยชนะไปได้ในครึ่งหลังด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นทางด้าน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มาสวมบทฮีโร่ซัดประตูต่อหน้าแฟนๆ ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ เป็นประตูชัยให้กับทีม โดยที่เหลือเวลาในสนามอีก 3 นาที
มันเป็นการจบเกมด้วยความสนุกตื่นเต้น ทั้งที่เกมนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรให้ต้องลุ้นแล้ว อย่างไรก็ตามนี่ก็คือความตื่นเต้นที่ไม่ได้หาโอกาสแบบนี้ได้บ่อยนัก แฟนๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด โบกธงและร้องเพลงเชียร์ร่วมกันอย่างยาวนานในช่วงบ่ายนี้ เป็นการแสดงความขอบคุณ 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังจะยุติบทบาทของตัวเองลง รวมถึงเป็นการฉลองการคืนสู่เหย้าของถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก ด้วย
นักเตะของทั้ง 2 ทีม รวมถึงทีมสต๊าฟฟ์ยืนเข้าแถวเป็นเกียรติให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนเกมจะคิกออฟ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับเขาเป็นที่สุด ทั่วทั้งสนามต่างปรบมือเป็นเกียรติให้กับชายคนหนึ่งที่นำความสำเร็จมาสู่ทีมเป็นเวลากว่า 1 ใน 4 ของศตวรรษ
การจัดทีมของยอดกุนซือปีศาจแดงในวันนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการเน้นเกมรุก โดยมีชื่อของ ชิชาริโต้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, แดนนี่ เวลเบ็ค และ ชินจิ คากาวะ ลงสนามพร้อมกันในแดนหน้า และทั้ง 4 คนนี้ก็เล่นร่วมกันได้อย่างออกรสชาติในช่วงต้นเกม
เพียงแค่ 5 นาที ฟาน เพอร์ซี่ ก็จ่ายบอลให้ชิชาริโต้หลุดเข้าไปทางด้านซ้าย มุมค่อนข้างถูกบีบเล็กน้อย ดาวยิงเม็กซิกันตัดสินใจยิงด้วยซ้ายผ่านมือ เจอร์ฮาร์ด เทรมเมล ไปชนคานอย่างจัง หลังจากที่บอลถูกเคลียร์ออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฟิล โจนส์ ก็ได้พาบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายจากการทำชิ่งหนึ่งสองแบบสุดสวยกับ ฟาน เพอร์ซี่ และเป็นชิชาริโต้ที่พลาดทำบอลเสียไปในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มแบบหวุดหวิด
หลังจากที่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่พักใหญ่ๆ สวอนซีก็ได้โอกาสสวนกลับเร็ว และพวกเขาเกือบได้ประตูออกนำไปก่อนด้วย แต่ว่า ปาโบล เฮอร์นานเดซ ก็ยิงลูกนี้หลุดเสาไกลของ ดาบิด เด เคอา ออกไป
กองเชียร์ของทั้ง 2 ทีมต่างกู่ร้องตะโกนกันอย่างสนุกสนาน โดยที่แทบไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามเลยด้วยซ้ำ ชิโก้ ฟลอเรส มีจังหวะที่ต้องสกัดลูกโขกของชิชาริโต้เปลี่ยนทางออกหลังไป ขณะที่ ปาทริซ เอฟร่า กับ พอล สโคลส์ ก็ได้โอกาสลองซัดด้วยกันทั้งคู่ แต่บอลก็เข้ามือของเทรมเมล ไปสบายๆ ถึงตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเร่งเครื่องควานหาประตูขึ้นนำด้วยความจริงจังมากขึ้นแล้ว
คากาวะมามีบทบาทหลังจากเกมผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง จังหวะแรกเขาเกือบเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ ก่อนที่ต่อมาเขาจะโยกหลอก นีล เทย์เลอร์ ตัดเข้าใน และยิงด้วยซ้ายข้ามคานไปทางฝั่งสกอร์บอร์ด
การเปิดเกมบุกแบบข้างเดียวของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงดำเนินต่อไป เหลือแค่รอเวลาปลดล็อคเท่านั้น ซึ่งในที่สุดหลังจากที่เพิ่งยิงข้ามคานมาไม่นาน ชิชาริโต้ก็ซัดประตูขึ้นนำให้กับทีมได้สำเร็จ เป็นลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวาของ ฟาน เพอร์ซี่ ที่ปั่นโค้งเข้ามา กองหลังทีมเยือนสกัดบอลกันได้ไม่ดี บอลกระดอนไปชน แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ มาเข้าทางดาวยิงหมายเลข 14 ของทีมปีศาจแดงอย่างเหมาะเจาะ เขายิงเข้าไปง่ายๆ ให้ทีมเจ้าบ้านออกนำ
ด้วยความต้องการที่จะฉลองกันอีกครั้งในฝั่งสกอร์บอร์ด เอนด์ ทางด้าน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ได้โอกาสถึง 2 ครั้งที่จะยิงให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างออกไปก่อนจบครึ่งแรก ครั้งแรกยิงไปติดเซฟของเทรมเมล จากนั้นก็ได้โอกาสปั่นโค้งด้วยขวาจากการจ่ายมาให้ของ สโคลส์
สวอนซี ซิตี้ กลับมาเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าในครึ่งหลัง และก็ตีเสมอได้ในเวลาเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้นหลังกลับมาลงเล่น หลังจากกดดันอยู่นาน นาธาน ดายเออร์ ก็ได้โอกาสครอสบอลจากทางกราบขวา และมิชูก็เข้าถึงบอลก่อน ฟิล โจนส์ ที่พยายามพุ่งโขกสกัด ลูกยิงของเขาผ่านมือ เด เคอา เข้าไปซุกก้นตาข่าย
กำลังใจมาเต็มเปี่ยมแล้ว สวอนซี ซิตี้บุกหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังพลิกขึ้นนำ และ เวย์น เราท์เลดจ์ ก็เกือบทำได้สำเร็จ เขายิงหลุดกรอบออกไปนิดเดียว หลังทำชิ่งหนึ่งสองกับมิชูขึ้นมา แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตั้งรับกันอย่างเต็มที่ แต่พวกเขาก็เกือบโดนยิงแซงอีกครั้ง จากลูกเตะมุมเร็วของทีมเยือน ปาโบล ได้จังหวะยิงที่เสาแรก บังคับให้ เด เคอา ต้องโชว์ลูกเซฟออกหลังไป ต่อมาลูกจ่ายเข้ากลางของ แดนนี่ เวลเบ็ค ก็เลยการพุ่งเข้าชาร์จของชิชาริโต้ไปนิดเดียว ในช่วงที่ทีมปีศาจแดงฉกฉวยโอกาสจากการเคลียร์ไม่ขาดของสวอนซี หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาของหนึ่งในพระเอกในวันนี้อย่าง พอล สโคลส์ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวออกไปท่ามกลางเสียงปรบมือล้นหลาม
มิดฟิลด์รายนี้ถูกเปลี่ยนออกพร้อมกับเวลเบ็ค เป็นทางด้าน แอนเดอร์สัน และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ได้ลงมาเล่นแทน กองกลางชาวบราซิลเข้ามามีส่วนสำคัญในเกมทันที เขาครอสบอลให้ชิชาริโต้โขกหลุดกรอบ หลังจากนั้นก็มีจังหวะวอลเล่ย์เลียดพื้นหนีมือเทรมเมลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ขณะที่ 2 กองหลังอย่างโจนส์และวิดิชก็ต้องใช้ความกล้าหาญพุ่งเข้าบล็อคลูกยิงของฟลอเรสในกรอบเขตโทษถึง 2 ครั้งติดต่อกัน สวอนซียังคงเล่นกันได้ดี แต่วิดิชก็ได้มีลุ้นทำประตูด้วยเหมือนกัน เขาเติมขึ้นมาโขกลูกทางเสาไกลหลุดกรอบออกข้าง
แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นคู่กลางของเซ็นเตอร์ชาวเซอร์เบียอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มาสวมบทฮีโร่ของเกม เขาฉวยโอกาสจากการที่แนวรับทีมหงส์ขาวสกัดบอลกันไม่ขาดในลูกเตะมุมของ ฟาน เพอร์ซี่ เขาซัดเต็มเหนี่ยวเข้าไปตุงตาข่ายต่อหน้าแฟนบอลฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์
จากประตูนี้ ทำให้ริโอกลายเป็นนักเตะคนที่ 20 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูได้ในลีกสำหรับฤดูกาลที่คว้าแชมป์สมัยที่ 20 มันช่วยปลุกให้เสียงเชียร์จากแฟนบอลดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งก่อนสิ้นเสียงนกหวีดยาว จากนั้นก็ถึงช่วงเวลาสำคัญในวันนี้ พิธีรับมอบถ้วยแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และการกล่าวคำอำลาถึง 2 ผู้ยิ่งใหญ่อันเป็นที่รักของสโมสร
สถิติ/คะแนน